การพลิกโฉมอสังหาฯ ไทยผ่านแนวคิด Biophilia: บทเรียนจาก Dusit Central Park

อัพเดทล่าสุด 30 พฤษภาคม 2565, 09:45 น.

แชร์ข้อมูล

     โครงการ Dusit Central Park ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ที่ผสาน "ความหรูหรา + ความยั่งยืน" เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Biophilia ที่เน้นการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โครงการนี้ไม่เพียงเป็นแลนด์มาร์คใจกลาง Super Core CBD ของกรุงเทพฯแต่ยังสะท้อน 5 เทรนด์สำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่ออสังหาริมทรัพย์ในไทยและระดับโลก

1.  Biophilic Design     มาตรฐานใหม่ของอสังหาริมทรัพย์ระดับบน
     Biophilic Desigh กำลังกลายเป็น "มาตรฐานใหม่" ของการออกแบบอาคารและพื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะโครงการมิกซ์ยูสหรือที่พักอาศัยระดับ High - End ทั้งในแง่การตลาดและความต้องการผู้บริโภค

  • มีงานวิจัยจาก Harvard และ MIT สนับสนุนว่าการออกแบบที่มีองค์ประกอบธรรมชาติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความเครียด และสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง
  • สำหรับคลาดอสังหาริมทรัพย์ลักชัวรี่สิ่งนี้ไม่ใช่ "จุดขายพิเศษ" อีกต่อไปแต่เป็น "ความคาดหวังขั้นต่ำ" ของผู้ซื้อและนักลงทุนในอนาคต

2.  Green Asset     คิอ  แต้มต่อในการเข้าถึงทุนและสร้างมูลค่าเพิ่ม
        
Green Building หรือ Green Asset ไม่ได้จำกัดแค่ "ลดโลกร้อน" แต่มีผลชัดเจนต่อ

  • การเข้าถึงแหล่งเงินทุน  :  โครงการที่มีแนวทางด้าน ESG มักได้รับการสนับสนุนจากธนาคารหรือกองทุนในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
  • การประเมินมูลค่าทรัพย์สิน  :  อาคารที่มีพื้นที่สีเขียวและประหยัดพลังงาน มักมีค่าเช่าที่สูงกว่าและมีอัตราการเข้าอยู่นานขึ้น

   กรณีของ Dusit Central Park มีการใช้ระบบ Solar Roof , HVAC Optimization และ ระบบรีไซเคิลน้ำแบบปิดภายในโครงการ ถือเป็นต้นแบบของ Green Tech Integration ในอสังหาริมทรัพย์ไทย

3.   Urban Ecology    คือ  มิติใหม่ของ "ทำเล" ที่มากกว่าความสะดวก
         
ในอดีตทำเลที่ดีต้องใกล้รถไฟฟ้าหรือศูนย์กลางธุรกิจ แต่ในอนาคตทำเลที่ดีต้องมีระบบนิเวศเมื่องที่สนับสนุนคุณภาพชีวิต

  • Dusit Central Park พัฒนา Roof Park ขนาด 7 ไร่ เพื่อเชื่อมโยงกับสวนลุมพินีสร้าง "green corridor" ใจกลางกรุงเทพมหานคร
  • โครงการแบบนี้ช่วยยกระดับพื้นที่รอบข้าง (spillover effect) ส่งผลให้มูลค่าที่ดินบริเวณนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายอื่นต้องพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้น

4.  พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป     สร้างความแตกต่างที่ยั่งยืน
         
หลังยุคโควิด ผู้ซื้อให้ความสำคัญกับ

  • สุขภาพ (Physical & Mental Wellness)
  • ความยืดหยุ่นของพื้นที่ (Flexible Space)
  • การเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

     โครงการอย่าง Dusit Residences ที่รวมพื้นที่สีเขียวส่วนตัว , สวนลอยฟ้า , และระบบฟอกอากาศตามธรรมชาติ กลายเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อระดับพรีเมียมที่มองหา "คุณภาพชีวิตระยะยาว"

5.  ESG     ไม่ใช่เฉพาะเรื่อง CSR แต่คือ Core Strategy
     
แนวทางของ Dusit Central Park แสดงให้เห็นว่า ESG ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์เพื่อภาพลักษณ์ แต่เป็นโครงสร้างหลักของการออกแบบ การจัดการ และการตลาดโครงการ

  • E (Environmental)  :  ระบบอาคารอัจฉริยะ , การลดพลังงาน , การเลือกพืชในระบบนิเวศ
  • S (Social)  :  การออกแบบพื้นที่สาธารณะให้เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม
  • G (Governance)  :  การร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

บทสรุปสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์

  • Biophilia ไม่ใช่เพียงสุนทรียภาพ แต่คือ "กลไกเศรษฐกิจใหม่" ที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดและผู้บริโภค
  • โครงการใหม่ควรพิจารณา Biophilic Design ตั้งแต่ขั้นตอนการวางผังและพัฒนาโมเดลทางการเงิน
  • นักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับ Green Certification และ Urban Integration มากกว่าดีไซน์ล้วนๆ

Dusit Central Park คือ เคสศึกษาสำคัญที่สะท้อนว่าทิศทางของอสังหาริมทรัพย์ไทยกำลังเปลี่ยนไป และใครที่พร้อมปรับตัวก่อนจะเป็นผู้ได้เปรียบในสมรภูมิเมืองอนาคต